สินเชื่อรถยนต์มือสองเงื่อนไขไฟแนนซ์ปรับเปลี่ยนมากมายในปี2014

เงื่อนไขสินเชื่อรถยนต์มือสองตั้งแต่ต้นปี2014ทางไฟแนนซ์ได้มีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขเปลี่ยนแปลงจากเดิมอย่างมากมายที่เห็นได้ชัดเจนก็คือเรื่องข้อกำหนดอายุรถยนต์ ไฟแนนซ์รถที่เป็นแบงก์อย่างแห่งแต่กว่ารถที่มีการใช้งานเกิน10ปีก็ยังเปิดโอกาสให้ยื่นขอสินเชื่อรถยนต์มือสองได้บ้าง แต่ปัจจุบันไฟแนนซ์รถที่เป็นแบงก์จะรับพิจารณาสินเชื่อรถยนต์มือสองสำหรับรถยนต์ไม่เกิน10ปีก็เป็นส่วนใหญ่ ถ้าอายุรถเกินก็คือไม่รับพิจารณาสินเชื่อรถยนต์มือสองเลย ส่งผลให้พ่อค้ารถ เต็นท์รถมือสองจำนวนมากปิดการขายรถมือสองไม่ได้ ในเมื่อสินเชื่อรถยนต์มือสองไม่ได้เข้ามาช่วยในการซื้อขายรถได้ก็ต้องขายด้วยเงินสดสถานะเดียว รอคนซื้อรถด้วยเงินสดมาซื้อรถมือสองที่มีอายุเกิน10ปี กำลังซื้อรถมือสองก็ลดลงจากนโยบายรถคันแรกยังไม่พอ รถมือสองที่มีอยู่ก็ขายไม่ได้มีคนซื้อแต่คนซื้อเงินพอ สินเชื่อรถยนต์มือสองก็ไม่อำนวยแล้วทีนี้จะปิดการขายลงได้อย่างไร

นอกจากเรื่องอายุของรถยนต์แล้ว เงื่อนไขในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อรถยนต์มือสองผ่านนั้นก็มีการเพิ่มดีกรีความเข้มข้นในการพิจารณาสินเชื่อรถยนต์มือสองเพิ่มเป็นเท่าตัว ผู้ขอสินเชื่อรถยนต์มือสองมีตำหนิด้านประวัติเครดิตนิดหน่อยก็อาจจะไม่อนุมัติสินเชื่อรถยนต์มือสองเลยก็เป็นไปได้หรือถ้าอนุมัติก็ต้องหาบุคคลค้ำประกันรถยนต์ที่มีคุณสมบัติดีเพิ่มเติมมาจึงจะได้รับผลสินเชื่อรถยนต์มือสองอนุมัติ

อายุรถยนต์ หลักเกณฑ์ที่เข้มข้นในการพิจารณาสินเชื่อรถยนต์มือสองแล้ว เรื่องวงเงินอนุมัติสินเชื่อรถยนต์มือสองก็ถูกปรับนโยบายในการให้สินเชื่อรถยนต์มือสองลดลงไปอีกด้วย เช่นจากตลาดรถมือสองในกลุ่มยอดนิยมจากเดิมเคยให้วงเงินจากราคาประเมิน90%-100%ก็อาจจะถูกปรับลดลง10%เป้นต้น

สินเชื่อรถยนต์มือสองกับนโยบายที่เข้มข้นก็ส่งผลให้เต็นท์รถมือสองดำเนินธุรกิจเป็นไปได้ยากขึ้น แต่ก็มีผลดีกับผู้บริโภคไม่มากก็น้อย จากนโยบายที่เข้มข้นในการให้สินเชื่อรถยนต์มือสองทำให้ราคารถมือสองถูกปรับลดลงตามราคาตลาดรถมือสองตามความเป็นจริง จะเห็นได้รถมือสองราคาลดลงเป็นอย่างมากผู้บริโภคซื้อรถมือสองก็จะได้ซื้อรถมือสองในราคาสมเหตุสมผล ราคารถมือสองสูงก็เท่ากับไม่ต้องยื่นขอสินเชื่อรถยนต์มือสองในวงเงินที่สูงเกินความจำเป็น

หลักเกณฑ์ทำเรื่องให้สินเชื่อรถยนต์มือสองอนุมัติผ่าน

เวลาคนเราจะขอสินเชื่อรถยนต์มือสองเพื่อนำมาใช้ซื้อรถมือสองหรืออาจจะนำเงินสดมาใช้ส่วนตัวโดยการนำรถเข้าไฟแนนซ์เพื่อรีไฟแนนซ์รถก็ตาม เกือบทุกคนที่ต้องการสินเชื่อรถยนต์มือสองย่อมต้องการผลอนุมัติสินเชื่อผ่านกันทั้งสิ้นเพื่อที่จะตอบโจทย์ของตัวท่านเอง

ทำเรื่องให้สินเชื่อรถยนต์มือสองอนุมัติผ่าน

กรณีของคนสถานะเครดิต ถ้าต้องการทำเรื่องสินเชื่อรถยนต์มือสองให้อนุมัติผ่านโดยง่าย สิ่งแรกเลยก็ต้องประเมินรายได้ของตนเองเสียก่อนว่า ช่องว่างของรายได้ต่อเดือนของตัวคุณเองมีเหลืออยู่เท่าไร เช่น เงินเดือน 20000 ผ่อนบ้าน5000บาท ผ่อนบัตรเดือนละ2000 ชำระค่าน้ำค่าไฟฟ้าอีก2000บาท ก็เท่ากับมีรายจ่ายสุทธิ์ต่อเดือน 9000บาท  เงินเดือน20000บาทหักค่าใช้จ่ายต่อเดือน9000บาทเหลือช่องว่างรายได้อยู่ 11000 ทางไฟแนนซ์จะคำนวณจากรายได้สุทธิ์คงเหลือต่อเดือนโดยให้สินเชื่อรถยนต์มือสองในวงเงินที่สามารถผ่อนค่างวดสินเชื่อรถยนต์มือสองที่50% - 80%

  • รายได้สุทธิ์คงเหลือต่อเดือน 11000 คูณ 50% ก็เท่ากับ 5500บาท
  • กำลังผ่อนต่อเดือนได้ยอดที่ 5500 บาท 
  • 5500บาทต่อเดือน ก็สามารถยื่นขอวงเงินกู้ได้ประมาณ 250000บาท
  • 250000 ดอกเบี้ย4%ต่อปีด ผ่อนระยะเวลา5ปี ค่างวดจะได้เท่าไร 5350บาท
  • ถ้าคุณยื่นกู้เกินที่ค่างวดที่จะผ่อนไหวที่ 5500 บาท ทางไฟแนนซ์อาจจะลดวงเงินสินเชื่อรถยนต์ของคุณลงหรือดีไมไดีอาจจะโดยปฏิเสธในการยื่นขอสินเชื่อรถยนต์ในทันก็เป็นไปได้

กรณีของคนสถานะเครดิตติดลบ หรือที่ชอบเรียกกันว่าติดแบล็คลิสต์ ค้างค่างวดสินเชื่อ ถ้าจะทำเรื่องสินเชื่อรถยนต์มือสองให้อนุมัติผ่าน ก่อนอื่นเลย
  1. ต้องดำเนินการเคลียร์ยอดหนี้ที่ค้างชำระสินเชื่อรายการต่างๆให้หมดก่อน
  2. หลังจากเคลียร์จบแล้วอาจจะต้องรอระยะเวลาอีกประมาณ3เดือน 6เดือนหรือ12เดือนก็เป็นไปได้
  3. ยื่นขอสินเชื่อรถยนต์มือสองครั้งต่อไป ควรที่จะมีบุคคลประกันรถยนต์ที่คุณสมบัติดี รายได้สุทธิ์สูงต่อเดือน ถ้าคุณนำคนค้ำประกันรถยนต์ที่ติดแบล็คลิสต์มาค้ำด้วยก็ไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นในการยื่นขอสินเชื่อรถยนต์มือสองของคุณ
  4. ขอสินเชื่อรถยนต์มือสองในวงเงินกู้ที่ไม่เกินเกณฑ์กำหนดของค่างวดรถยนต์ที่ผ่อนตามข้อมูลสถานะเครดิตปกติ
สินเชื่อรถยนต์มือสองอนุมัติผ่านตามคุณสมบัติผู้ยื่นกู้และผู้ค้ำประกันรถยนต์ประกอบกัน และเงื่อนไขของทางไฟแนนซ์เป็นผู้กำหนด ขอให้ทุกท่านโชคดี สมหวังในการยื่นขอสินเชื่อรถยนต์มือสองกันทุกท่าน  ข้อมูลในบทความอ่านไว้เป็นแนวทางไม่ใช่เงื่อนไขที่ทางไฟแนนซ์เป็นผู้กำหนด

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับสินเชื่อรถยนต์มือสอง

สินเชื่อรถมือสองคืออะไรนั้น ตามความเป็นจริงแล้วสินเชื่อรถยนต์มือสองก็คือการขอสินเชื่อเพื่อมาซื้อรถมือสองที่ชอบเรียกกันว่าจัดไฟแนนซ์ หรือเจ้าของรถยนต์ได้นำรถของตนเองมาขอสินเชื่อเพื่อที่จะได้เงินสดมาใช้ที่ชอบเรียกว่ารีไฟแนนซ์ ไม่ว่าจะเป็นการจัดไฟแนนซ์หรือรีไฟแนนซ์ต่างก็เป็นสินเชื่อรถยนต์มือสอง

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับสินเชื่อรถยนต์มือสอง
  1. รถมือสองทุกคันทางไฟแนนซ์มีราคาประเมินไว้อยู่แล้วทุกรุ่นทุกยี่ห้อ ฃึ่งไม่ใช่ราคาขายรถมือสองเพราะว่าราคารถมือสองแต่ละคันก็ไ่ม่เท่่ากัน ที่สำคัญราคาขายรถมือสองเป็นความพึงพอใจของผู้ขายที่จะตั้งราคาขายส่วนว่าจะขายรถได้หรือไม่ได้นั้นอีกเรื่องนึง
  2. ถ้าคุณซื้อรถมือสองในราคาแพงกว่ารุ่นรถเดียวกัน ก็เตรียมใช้เงินดาวน์สูงๆไว้ได้เลย แต่กลับกันถ้าคุณมีโอกาสซื้อรถมือสองได้ในราคาถูกกว่ารุ่นรถเดียวกันที่ขายก็ได้รับโอกาสใช้เงินดาวน์ต่ำหรือบางครั้งอาจจะไม่ต้องใช้เงินดาวน์เลยก็ได้ หรือที่เค้าเรียกกันว่าจัดเต็ม
  3. ดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์มือสองนั้นไม่ได้ถุกกำหนดจากวงเงินกู้ แต่จะกำหนดจากอายุของรถยนต์และระยะเวลาในการผ่อน คุณจะขอกู้วงเงินสูงหรือวงเงินต่ำสำหรับรถปีเดียวกันก็ถูกเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์เท่ากัน
  4. ถ้าคุณต้องการดอกเบี้ยที่ต่ำก็ควรเลือกซื้อรถที่มีอายุการใช้งานน้อย(รถปีใหม่)และเลือกผ่อนระยะเวลา3ปีหรือ4ปี ถ้าคุณเลือกผ่อนที่5ปี 6ปี ดอกเบี้ยรถมือสองก็ถูกบวกเพิ่มขึ้นไปอีก
  5. สินเชื่อรถยนต์มือสองมีภาษีมูลค่าเพิ่มทุกคัน สำหรับในการทำเช่าซื้อรถยนต์แล้วมีการโอนเล่มทะเบียนรถ ภาษีมูลค่าเพิ่มรัฐบาลเป็นผู้เรียกเก็บ
  6. สินเชื่อรถยนต์มือสองแบบที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ก็มีแต่แบบสินเชื่อจำนำทะเบียนเล่มรถยนต์แบบที่ไม่ต้องโอน แต่ว่าอัตราดอกเบี้ยจะสูงกว่าปกติและวงเงินกู้ก็ให้ไม่สูง บวกด้วยเงื่อนไขที่เพิ่มเติมขึ้นมาแล้วแต่ทางไฟแนนซ์นั้นๆเป็นผู้กำหนด
  7. ค่าใช้่จ่ายในการทำสินเชื่อรถยนต์มือสอง หลักๆก็จะมีการค่าอากรโอนรถยนต์+ค่าดำเนินการทางทะเบียน , เบี้ยประกันภัยรถยนต์ , ค่าธรรมเีนียมอื่นๆ
  8. โดนส่วนใหญ่รถเปลี่ยนเครื่องยนต์มาจะยื่นขอสินเชื่อรถยนต์มือสองนั้น ไฟแนนซ์โดยส่วนใหญ่จะปฏิเสธการยื่นขอสินเชื่อรถยนต์มือสอง แต่ก็ยังมีบางไฟแนนซ์ที่รับพิจารณาสินเชื่อรถยนต์มือสองสำหรับรถเปลี่ยนเครื่อง
อย่างไรก็ตามสินเชื่อรถยนต์มือสองก็เป็นการยื่นขอสินเชื่อกับทางไฟแนนซ์ ซึ่งรายละเอียด ข้อกำหนด เงื่อนไขต่างๆก็เป็นไปตามไฟแนนซ์แต่ละแห่งเป็นผู้กำหนด ผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อรถยนต์มือสองควรที่จะสอบถามรายละเอียดเงื่อนไขต่างๆกับเจ้าหน้าที่สินเชื่อรถยนต์มือสองของทางไฟแนนซ์รถให้เข้าใจดีก่อนที่จะยื่นเอกสารขอสินเชื่อรถยนต์มือสองเพื่อเป็นการทำความเข้าใจตรงกัน เมื่อสัญญาสินเชื่อรถยนต์มือสองเริ่มต้นแล้วไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วนะจ๊ะ

แนวโน้มและความเป็นไปได้สินเชื่อรถยนต์มือสองในปี2557

     ภาวะของตลาดสินเชื่อรถยนต์มือสองในปี2557ที่กำลังจะมาถึงนั้น มีความเป็นไปได้ว่ากฎเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อรถยนต์มือสองจะมีความเข้มงวดขึ้น อนุมัติสินเชื่อรถยนต์มือสองยากขึ้นโดยดูจากตัวNPLหนี้เสียที่เกิดขึ้นของสินเชื่อรถยนต์ภาพรวม ทำให้ไฟแนนซ์ชะลอการปล่อยสินเชื่อรถยนต์มือสองถ้าผู้ขอสินเชื่อรถยนต์ไม่มีคุณสมบัติที่ดีจริงการอนุมัติสินเชื่อในวงเงินสูงก็เป็นไปได้ยาก

     จากเดิมในปี2555และปี2556ก่อนช่วงกลางปี(ก่อนเดือน6) สินเชื่อรถยนต์มือสองทางไฟแนนซ์รถต่างๆยังรับพิจารณารถยนต์ที่มีอายุเกิน15ปี(รถปี1993-ปี1998) แต่ถ้าว่าในช่วงหลังกลางปี2556มานั้นหลายไฟแนนซ์ได้มีการปรับเปลี่ยนนโยบายในการรับพิจารณารถมือสองถ้ารถมือสองมีอายุเกิน15ปีไฟแนนซ์รถส่วนใหญ่จะไม่รับพิจารณาสินเชื่อรถยนต์มือสอง คาดว่าเข้าสู่ปี2557แล้วรถยนต์ที่มีอายุเกิน15ปีเชื่อได้ว่าจะไม่มีไฟแนนซ์ที่ไหนรับพิจารณาสินเชื่อรถยนต์มือสองหรือถ้ามีก็ต้องเหนื่อยหาเป็นอย่างแน่นอน

     ดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์มือสองในปี2557นั้น สำหรับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน8ปี เรทอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรถมือสองไม่ได้มีการปรับเพิ่มเท่าไรนัก แต่สำหรับรถปีต่ำที่มีอายุการใช้งานเกิน8ปีดอกเบี้ยรถมือสองมีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด1%-4%ต่อปีก็ว่าได้

     เหตุที่ยอดสินเชื่อรถยนต์มือสองที่จะได้รับการอนุมัติในปี2557ได้น้อยลงก็เพราะว่าราคาประเมินรถมือสองแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นได้ปรับลดลงและจากเดิมนโยบายให้สินเชื่อรถยนต์มือสองที่อนุมัติ90% 95% 100%จากราคาประเมินก็ถูกปรับลดลงเหลือ70%-85%ของราคาประเมินรถมือสองก็เลยเป็นเหตุที่ทำให้วงเงินสินเชื่อรถยนต์มือสองที่อนุมัติได้รับน้อยลงตามไปด้วยนโยบายของทางไฟแนนซ์รถกับราคาประเมินรถมือสอง

สินเชื่อรถยนต์มือสองกับภาวะตลาดรถมือสองในปี2557

     ในปลายปี2555ทางรัฐบาลได้มีโครงการรถคันแรกคืนเงินภาษีสำหรับผู้ที่ซื้อรถคันแรกเป็นของตนเอง เมื่อซื้อรถก็จะได้รับเงินคืนคันละ50000 - 100000ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของรถแต่ละคันที่ทางรัฐบาลได้กำหนดไว้ โครงการรถคันแรกถือได้ว่าเป็นที่ถูกอกถูกใจสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อรถคันแรกในชีวิตซื้อรถป้ายแดงคันแรกได้ของแถมและส่วนลดแล้วยังได้รับสิทธิ์คืนเงินภาษีอีกด้วยทำให้ใครผู้คนสนใจเป็นอย่างมากส่งผลให้ยอดขายรถในปี2556เติบโตแบบก้าวกระโดดคนแห่ไปขายรถใหม่ป้ายแดงกันเป็นจำนวนมาก

จากนโยบายรถคันแรกส่งผลต่อสินเชื่อรถยนต์มือสองและตลาดรถมือสองเป็นอย่างมากในปี2556ตั้งแต่กลางปีจนต่อเนื่องสู่ปีใหม่2557 นโยบายรถคันแรกส่งผลอย่างไรกับสินเชื่อรถยนต์มือสองกับตลาดรถมือสองก็คือ

     1.กำลังซื้อรถมือสองที่มีราคาต่ำกว่า700000บาทนั้นได้หดหายออกไปจากระบบเกินกว่า50% ส่งผลให้เต็นท์รถมือสองขนาดขายรถกันไม่ค่อยจะได้ ภาระต้นทุนต่อเดือนเดินตลอดเมื่อไม่มีรายได้เข้าก็ต้องปิดเต็นท์ลงสู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว

     2.ราคารถมือสองมีการปรับเปลี่ยนราคาอย่างรุนแรงในระยะเวลาไม่กี่เดือน ทำให้เต็นท์รถมือสองประสบภาวะขาดทุนกันเป็นจำนวนมาก เต็นท์ซื้อรถเข้าในช่วงปลายปี2555ในราคา400000 แต่ว่าในช่วงต้นปี2556ราคาถูกปรับลงเหลือ350000 จึงเกิดภาวะซื้อรถมาแพงจึงต้องทำให้ขายแพงและขายรถไม่ได้เพราะว่าราคารถมือสองอันใหม่มีราคาถูกกว่า บางเต็นท์ก็ต้องยอมขายเท่าทุนหรือขาดทุน แต่ว่าก็มีบางเต็นท์ที่ไม่ยอมตัดใจขายเท่าทุนและในเวลาต่อมาช่วงกลางปีต่อเนื่องมายังปลายปี2556ราคารถมือสองก็ปรับตัวลดลงไปอีกคันละ30000 คันละ50000ถ้าคิดจะขายรถออกไปตอนนี้ก็จะทำให้ประสบภาวะขาดทุนอย่างหนักจึงทำให้เต็นท์รถมือสองปิดเต็นท์กันเป็นจำนวนมาก

     3.เมื่อราคารถมือสองลดลง ทางไฟแนนซ์รถก็ปรับราคาประเมินลดลงตามไปด้วยทำให้ยอดสินเชื่อรถยนต์มือสองที่ยื่นขออนุมัติได้ลดตามไปด้วยส่งผลการปิดการขายรถมือสองที่ผู้ซื้อรถมือสองต้องใช้เงินดาวน์ออกรถมือสองสูงขึ้นทำให้การปิดการขายเป็นไปได้ยากมากยิ่งขึ้น

     4.ตัวเลขNPLของพอร์ตรถใหม่ป้ายแดงที่มีส่วนหนึ่งมาจากโครงการรถคันแรก เพิ่มมากขึ้น หนีสูญเพิ่มขึ้นส่งผลให้ทางไฟแนนซ์รถและลิสซิ่งรถต่างๆต้องมาทบทวนนโยบายในการให้สินเชื่อรถยนต์มือสองกันใหม่ทำให้การปล่อยสินเชื่อรถยนต์มือสองมีความเข้มงวดมากขึ้น อนุมัติสินเชื่อรถยนต์มือสองยากขึ้น ผู้ขอสินเชื่อรถยนต์มือสองจะต้องมีคุณสมบัติที่ดีผ่านเกณฑ์ที่ทางไฟแนนซ์รถกำหนดทุกประการจึงจะได้รับผลการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์มือสอง

     ในภาวะราคามือสองมีการปรับเปลี่ยนราคาลดลงอย่างต่อเนื่องผู้ประกอบอาชีพเต็นท์รถมือสองปรับตัวไม่ทันราคาตลาดรถมือสองก็จะทำให้ประสบภาวะขาดทุนสะสม แต่ก็ถือได้ว่าเป็นโอกาสทองของผู้ซื้อรถมือสองไว้ใช้งานในชีวิตประจำที่จะได้รับโอกาสซื้อรถมือสองในราคาไม่สูงมากนัก ถ้าคนขายรถมือสองตั้งขายรถมือสองในราคาสูงขอแนะนำว่าอดทนรอสัก3เดือน 6เดือนรับรองได้ว่าผู้ขายรถมือสองจะต้องยอมราคาลงมาอย่างแน่นอนเพราะว่าขายรถมือสองในราคาแพง ไฟแนนซ์ให้สินเชื่อรถยนต์มือสองไม่สูงทำให้ปิดการขายรถไม่ลงตัวพอนานวันเข้าผู้ขายรถมือสองก็ต้องยอมลดราคาลงเพื่อที่จะทำให้ขายรถมือสองออกไปได้

     เลือกใช้สินเชื่อรถยนต์มือสองอย่างมีสติ อย่าคิดแต่ว่าจะขอสินเชื่อรถยนต์มือสองในวงเงินเยอะๆ วงเงินสูงๆ ในการที่เราขอสินเชื่อมากเท่าไหร่ก็เท่ากับเราเป็นหนี้มากเท่านั้นและที่สำคัญภาระดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นก็มากตามไปด้วยถ้าคุณชำระสินเชื่อตรงต่อเวลาก็จะไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ในบางครั้งที่คนเรามีการจ่ายล่าช้าหรือมีการค้างชำระเกิดขึ้นนอกจากภาระดอกเบี้ยที่จำเป็นต้องชำระอยู่แล้วยังมีค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียเพิ่มขึ้นในรายการค่าใช้จ่ายในการติดตามทวงถาม ดอกเบี้ยปรับค้างชำระค่างวด ค่ายกเลิกสัญญาแล้วอย่ามานั่งบ่นและต่อว่าไฟแนนซ์รถและลิสซิ่งรถต่างๆว่าทำไมค่านู้นค่านี้มันเพิ่มมากขึ้นอย่างนี้ด้วย

สินเชื่อรถยนต์มือสอง ในปี2557(2013)

ความเป็นไปได้สำหรับสินเชื่อรถยนต์มือสองในปี2557(2013)

อัตราดอกเบี้ยรถ : มีแนวโน้มปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากเดิมปี2556อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์มือสองไม่มีการเปลี่ยนแปลงเท่าไรนัก อัตราดอกเบี้ยคงเดิม เกณฑ์ดอกเบี้ยรถมือสองสำหรับรถปีใหม่จะเริ่มต้นที่3.5% ถึง4%ต่อปี และรถปีต่ำก็มีอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มตามอายุรถทีี่มีการใช้งานมากขึ้นโดยเกณฑ์ดอกเบี้ยสำหรับรถที่เกินปี2000ก็จะอยู่ช่วง5% 6% 7%

ระยะเวลาในการผ่อนสินเชื่อรถยนต์ : โดยมากปีที่แล้วรถมือสองจะเลือกผ่อนได้5ปีสูง และรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานไ่ม่เกิน3ปีจะสามารถผ่อนได้6ปี คาดว่าในปี2557ไฟแนนซ์รถจะเน้นระยะเวลาในผ่อน6ปีสำหรับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมากขึ้น เงื่อนไขในการผ่อน6ปีจะขยายไปถึงรถยนต์ที่มีอายุการใช้5-10ปี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและนโยบายของทางไฟแนนซ์รถเป็นผู้กำหนด

ยอดจัดไฟแนนซ์หรือวงเงินสินเชื่อรถยนต์มือสอง : จะมีการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อรถยนต์มือสองเพิ่มขึ้น ก็เท่ากับยอดจัดหรือวงเงินสินเชื่อรถยนต์มือสองที่จะได้รับต้องได้วงเงินไม่สูง

อายุของรถยนต์ที่จะรับพิจารณาสินเชื่อรถยนต์มือสอง : คาดว่ารถยนต์ที่ปีต่ำกว่าปี2000(199x)จะลำบาก หาที่จัดไฟแนนซ์ยื่นขอสินเชื่อรถยนต์มือสองได้น้อยที่ ถึงหาที่ขอสินเชื่อรถยนต์ได้ก็ได้วงเงินไม่สูงเมื่อเปรียบกับราคาขายรถมือสองที่ตั้งขายกันในราคาเดิม ทำให้รถมือสองไม่สามารถปิดการขายได้ สำหรับรถยนต์ืมีอสองปีต่ำกว่าปี2000ถ้าขอสินเชื่อรถยนต์มือสองไม่ได้ก็เท่ากับต้องซื้อขายรถยนต์มือสองกันด้วยเงินสดอย่างเดียว

วางแผนทางการเงินให้ สินเชื่อรถยนต์มือสองจะได้ปลอดภัย ผ่อนค่างวดจะครบ รถยนต์่จะได้ไม่โดนยึด

รีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคารควรอ่านไว้เป็นความรู้

       รีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคารนั้นจะมีชื่อเรียกได้หลายชื่อมาก เช่น จำนำทะเบียนรถกับธนาคาร สินเชื่อรถแลกเงินรถยังมีขับที่ได้ยินโฆษณากันอันนี้ก็เป็นการรีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคารเหมือนกัน สินเชื่อรถคือเงิน ต้องการเงินสดมีรถช่วยคุณได้ อะไรประมาณนี้ก็ถูกจัดอยู่กลุ่มของรีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคารโดยเงื่อนไขที่เข้าข่ายว่าเป็นการรีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคารจะต้องเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์รถยนต์ในตอนนั้นอยู่ได้ติดต่อกับทางธนาคารเพื่อขอสินเชื่อรถยนต์ในลักษณะนี้จึงเรียกว่ารีไฟแนนซ์รถยนต์ แต่ถ้าเป็นบุคคลอื่นมาขอสินเชื่อรถยนต์ที่ไม่ใช่ผู้ถือกรรมสิทธิ์รถยนต์จะไม่ใช่การรีไฟแนนซ์รถยนต์แต่จะเป็นการจัดไฟแนนซ์รถยนต์โดยดำเนินการซื้อขายแลกเปลี่ยนรถยนต์เพราะว่ากรรมสิทธิ์รถยนต์ได้มีการโอนเปลี่ยนมือไปแล้ว

รีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคารก็แบ่งออกได้ 2 กรณี

   1 รีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคาร โดยที่รถยนต์คันที่จะนำมาทำธุรกรรมรีไฟแนนซ์รถยนต์นั้นปลอดภาระผ่อนในกรณีนี้สามารถขับรถพร้อมเล่มทะเบียนและเตรียมเอกสารในการขอสินเชื่อรถยนต์ให้พร้อมติดต่อกับธนาคารที่ต้องการจะรีไฟแนนซ์รถยนต์หรือธนาคารที่ให้เงื่อนไขรีไฟแนนซ์รถยนต์ตรงใจเรามากที่สุด สามารถดำเนินการได้ในทันทีส่วนระยะเวลารีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคารในลักษณะเวลาเฉลี่ยโดยทั่วไปในกรณีเครดิตปกติจะอยู่ในช่วง 3 - 6 วันทำการถึงจะแล้วเสร็จรับเงินจากการรีไฟแนนซ์รถยนต์กับทางธนาคาร

   2 รีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคาร โดยที่รถยนต์คันที่จะนำมาทำเรื่องยังผ่อนอยู่กับธนาคารหรือลิสซิ่งแห่งใดแห่งหนึ่งอยู่ถ้าคุณติดต่อขอรีไฟแนนซ์รถยนต์กับที่เดิมนั้นส่วนใหญ่จะได้รับคำปฎิเสธว่าไม่มีโครงการหรือนโยบายที่รับเรื่องรีไฟแนนซ์รถในลักษณะที่รถยนต์ติดภาระผ่อนอยู่ จะต้องทำการย้ายไฟแนนซ์ไปที่แห่งใหม่สะส่วนมาก การรีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคารในกรณีนี้จะมีสิ่งที่ต้องทราบก่อนเบื้องต้นอยู่สองอย่าง อย่างแรกก็คือยอดหนี้ที่จะต้องเคลียร์กับทางธนาคารที่ผ่อนอยู่ว่าจะต้องควักเงินจ่ายออกไปเท่าไรและอย่างที่สองก็คือวงเงินสินเชื่อรถยนต์ ณ ปัจจุบันที่รถยนต์ของเราจะได้รับอยู่ในวงเงินเท่าไร แล้วนำมาเปรียบเทียบกับยอดหนี้ที่จะต้องไปจ่ายมีความสอดคล้องออกมาในรูปแบบใด หนี้เดิมสูงกว่าวงเงินที่ได้รับใหม่ก็เท่ากับเงินติดลบ แต่ถ้าหนี้เดิมน้อยกว่าวงเงินใหม่ที่ได้รับก็เท่ากับได้รับส่วนต่างเงินสด


หลักการที่จะรีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคารให้อนุมัติง่ายๆก็ไม่มีอะไรมากมายเลย ไม่ติดประวัติเครดิตในการผ่อนชำระที่ค้างค่างวดเกิน30วัน 60วัน เกณฑ์ของรายได้ต้องสูงกว่าค่างวดที่รีไฟแนนซ์รถยนต์ประมาณหรือมากกว่า3เท่า คุณสมบัติที่พักอาศัยไม่ควรที่จะเช่าอยู่เป็นไปได้พักบ้านญาติ หรือบ้านตนเองดีที่สุด

ธนาคารที่สามารถติดต่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ได้แก่

      - รีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคารไทยพาณิชย์ได้โดยตรงที่มีสาขาใกล้ที่บ้านหรือที่ทำงาน
      - รีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้โดยตรงที่มีสาขาใกล้ที่บ้านหรือที่ทำงาน
      - รีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคารทิสโก้ได้โดยตรงที่มีสาขาใกล้ที่บ้านหรือที่ทำงาน
      - รีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคารกรุงไทยได้โดยตรงที่มีสาขาใกล้ที่บ้านหรือที่ทำงาน
      - รีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคารเกียรตินาคินได้โดยตรงที่มีสาขาใกล้ที่บ้านหรือที่ทำงาน
      - รีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคารธนชาตได้โดยตรงที่มีสาขาใกล้ที่บ้านหรือที่ทำงาน
      - รีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคารกสิกรไทยได้โดยตรงที่มีสาขาใกล้ที่บ้านหรือที่ทำงาน


** สิ่งที่ไม่ควรลืมทางธนาคารจะรับรีไฟแนนซ์รถที่ปลอดภาระผ่อน ส่วนรถยนต์ที่มีภาระผ่อนอยู่นั้นสามารถทำเรื่องรีไฟแนนซ์รถยนต์ได้แต่จะต้องดำเนินการปิดบัญชีเช่าซื้อรถยนต์กับธนาคารหรือลิสซิ่งแห่งเดิมให้เรียบร้อยเสียก่อนเพื่อที่จะได้รับเล่มทะเบียนรถยนต์นำมาใช้โอนกรรมสิทธิ์รถยนต์เข้ากับธนาคารหรือลิสซิ่งที่ได้ติดต่อทำธุรกรรมรีไฟแนนซ์รถยนต์ไว้ **

สิ่งมักมองข้ามในการขอสินเชื่อซื้อรถกันอยู่บ่อยๆ

ใครต่อคนหลายคนเป็นเวลาอยากได้รถแต่ว่ามีเงินสดจำกัดก็ต้องเลือกใช้สินเชื่อรถยนต์มาช่วยเลือกซื้อรถมาเป็นทางเลือกแต่ว่าตอนจะซื้อรถไม่ได้นึกถึงหรือเรียกได้ว่ามองข้ามค่าใช้จ่ายต่างๆที่จะเกิดตามมาหลังจากสินเชื่อรถยนต์อนุมัติเรียบร้อย ใจนึกอยากได้แต่รถ อยากได้รับใช้ไวไวทำให้มองข้ามค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายตามหลัง ตอนซื้อแค่นึกอย่างเดียวว่าซื้อรถเท่าไรและขอสินเชื่อรถยนต์ได้เท่าไหร่แล้วที่เหลือต้องใช้เงินดาวน์เท่าไรก็เตรียมแค่เงินดาวน์ไม่ได้เตรียมเงินค่าใช้จ่ายอื่่่นๆที่ต้องเสีย

สำหรับรถใหม่ป้ายแดงนั้นสิ่งที่ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายหลังจากเรื่องสินเชื่อรถยนต์อนุมัติแล้วนอกเหนือเงินดาวน์ที่มักจะถูกมองข้ามไปก็คือ
     - ค่าจดทะเบียนรถยนต์ถ้าทางโชว์รูมออกให้ก็ไม่ต้องเสีย (ก็กลายๆว่าเป็นการโอนรถยนต์)
     - ค่ามัดจำป้ายแดง (ค่ามัดจำหนังสือป้ายแดงจะได้รับคืนภายหลัง)
     - ค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ถ้าทางโชว์รูมออกให้ก็ไม่ต้องเสีย

สำหรับรถมือสองนั้น บางคนโชคดีได้ซื้อรถมือสองราคาถูกสามารถจัดเต็มขอสินเชื่อรถมือสองได้เต็มวงเงินเท่ากับราคาขายก็โชคดีไม่ต้องใช้เงินดาวน์ แต่บางคนพอใจที่จะซื้อรถในราคาที่แพงมากๆก็ต้องยอมรับว่าใช้เงินดาวน์ที่จำนวนมากตามไปด้วย แต่ทั้งนี้แล้วนอกเหนือจากเงินดาวน์ที่ต้องจ่ายแล้วยังมีค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากเงินดาวน์ที่มักจะถูกมองข้ามก็คือ
      - เบี้ยประกันภัยรถ ถ้าในกรณีที่วงเงินสินเชื่อรถยนต์มือสองสูงกว่า 300000 โดยมากแล้วจะต้องทำประกันภัยชั้น1 ค่าเบี้ยจะขึ้นอยู่กับทุนประกันของตัวรถ แต่ว่าในกรณีที่สินเชื่อรถมือสองวงเิงินน้อยกว่า 300000 สามารถเลี่ยงทำประกันภัยชั้น1ได้ ทำเป็นชั้น2หรือชั้น3แทนได้เบี้ยประกันก็จะอยู่ในช่วง 5000 - 8000
      - ค่าโอนเป็นสิ่งที่่ต้องควักเงินจ่ายแน่นอน ค่าใช้จ่ายรายการนี้ต้องตกลงกันระหว่างผู้ซื้อ ผู้ขายตกลงกันว่าใครจะเป็นผู้รับภาระ
      - บางท่านซื้อรถเต็นท์ บางเต็นท์รถก็เรียกเก็บค่าจัดไฟแนนซ์รถมือสอง บางเต็นท์รถก็ไม่เก็บค่าจัดไฟแนนซ์ยกให้ฟรีๆ เพราะถือว่าได้กำไรจากการขายรถแล้ว ส่วนค่าจัดไฟแนนซ์รถเท่าไรนั้นจะต้องสอบถามทางเต็นท์รถโดยตรงเพราะว่าแต่ละเต็นท์ก็เรียกเก็บไม่เท่ากัน ไม่มีมาตราฐานตายตัว
      - บางท่านซื้อขายรถยนต์กันเอง ติดต่อธนาคารกันเอง ในส่วนนี้ทางธนาคารก็จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมก็จะอยู่ในช่วง1000 - 2000ต่อคัน
      - บางท่านอาจจะเลือกใช้บริการ ถือเอาความสะดวกสบายใจซื้อบริการโดยติดต่อผ่านทางโบรกเกอร์ที่รับยื่นเอกสารขอสินเชื่อรถยนต์มือสอง ซึ่งทางโบรกเกอร์ก็จะเก็บค่าบริการตามแต่ตกลงกันหรือที่เรียกว่าค่าจัดไฟแนนซ์แบบที่เต็นท์รถเรียกเก็บ

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าหลังสินเชื่อรถยนต์อนุมัติ โอนรถเรียบร้อย ทางผู้ซื้อไม่ได้ใช้เงินดาวน์เพียงอย่างเดียวจะต้องใช้เงินไปกับค่าใช้จ่ายอื่นๆที่จะต้องตามด้วย โดยรวมกันจะเรียกได้ว่าเป็นการใช้เงินออกรถ

คำถามคือ สิทธิรถคันแรกสามารถรีไฟแนนซ์รถได้เปล่า

       ในปีที่แล้ว2555 นโยบายรถคันแรกทำให้มีคนสนใจออกรถกันเป็นจำนวนมหาศาลกันเลยทีเดียวมีทั้งผู้ที่ประวัติเครดิตปกติและคนที่ติดเครดิตหรือที่ชอบเีรียกกันว่าติดแบล็คลิสต์สนใจโครงการรถคันแรกเป็นจำนวนมาก ก็มีทั้งผู้ที่ขอสินเชื่อรถอนุมัติผ่านและผู้ที่ไม่สมหวังเพราะติดเครดิตอยู่ทำให้ไม่สามารถได้รับสิทธิรถคันแรกได้จึงทำให้ผิดหวัง และก็ยังมีกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งทีี่มีกำลังซื้อหรือมีคนออกเงินสดให้ไปซื้อรถในโครงการรถคันแรกด้วยเงินสด

       หลังจากเข้าโครงการรถคันแรกเรียบแล้ว ได้รับสิทธิคืนภาษีมาแล้วเกิดมีความต้องการจะรีไฟแนนซ์รถเกิดคำถามว่าจะสามารถรีไฟแนนซ์รถได้หรือเปล่า ทั้งที่ซื้อด้วยเงินสดและขอสินเชื่อรถยนต์จึงมีคำถามเกิดขึ้นในใจ โดยการรีไฟแนนซ์รถถือได้ผิดเงื่อนไขแต่สำหรับการผิดเงื่อนไขและไม่ต้องนำเงินมาคืน ประกอบด้วย 1.ได้รับเงินคืนแล้ว ถึงแก่กรรมก่อน 5 ปี แต่หากเสียชีวิตก่อน 1 ปี ที่จะได้เงินคืนจะไม่ได้สิทธิ์คืนเงิน 2.โอนสิทธิ์ให้ลีสซิ่ง ข้ามไฟแนนซ์ และ 3.รีไฟแนนซ์ ยังเป็นชื่อของตัวเองไม่เสียสิทธิ์

      รถคันแรกที่ผ่อนอยู่สามารถโอนสิทธิ์เปลี่ยนลีสซิ่งรถได้หรือผู้ที่ซื้อรถคันแรกด้วยเงินสดก็สามารถนำรถเข้าไฟแนนซ์เพื่อขอรีไฟแนนซ์รถกับลิสซิ่งรถได้แต่ต้องใช้ชื่อเดิมในการขอสินเชื่อรถยนต์เป็นชื่อเดียวกับผู้ที่ยื่่นขอสิทธิ์รถคันแรกและยังครอบครองรถอยู่ในระยะเวลา5ปี ก็ถือได้ว่ายังรักษาสิทธิ์รถคันแรกไว้ได้อยู่แต่ถ้าภายในระยะเวลา5ปี ทำการเปลี่ยนชื่อจากผู้รับสิทธิ์รถคันแรกเป็นบุคคลอื่นเมื่อใด เท่ากับผิดเงื่อนไข

รีไฟแนนซ์รถเพื่อลดยอดผ่อนสมควรยื่นขอรีไฟแนนซ์รถหรือไม่

หลายท่านที่กำลังผ่อนรถกับไฟแนนซ์รถอยู่ตอนแรกที่เริ่มผ่อนก็สามารถผ่อนได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร แต่พอผ่านพ้นไปช่วงระยะเวลาหนึ่งกลับมีความรู้สึกว่าผ่อนไม่ไหว ค่างวดสินเชื่อรถยนต์นั้นสูงไปอยากจะรีไฟแนนซ์รถใหม่ให้ค่างวดหลังจากรีไฟแนนซ์มันลดลงจะทำได้หรือ ต้องขอบอกว่ากระทำได้แต่ว่าการรีไฟแนนซ์เป็นการรับภาระดอกเบี้ยรถ2เท่าคือดอกเบี้ยในครั้งแรกและดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์รถในครั้งที่สองและจะต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่

การรีไฟแนนซ์รถเพื่อลดยอดผ่อนค่างวดสินเชื่อรถให้ลดลง ไม่อยากแนะนำให้ยื่นขอรีไฟแนนซ์ตามที่กล่าวมาในภาระดอกเบี้ยที่ซ้ำซ้อน
เหตุการณ์สมมุติ ขอกู้รถที่ 500000 ดอกเบี้ย5%ต่อปีะ ผ่อนระยะเวลา5ปี ค่างวด11145ต่อเดือน รวมเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยและvat = 668750
     - ผ่อนไปได้ประมาณ20งวด(20คูณ11145=222900) เริ่มรู้สึกว่าจะผ่อนไม่ไหวล่ะ อันเนื่องมาจากรายได้น้อยลงหรืออะไรก็ตามแต่ว่าค่างวดมันสูง จึงต้องการจะรีไฟแนนซ์รถเพื่อลดยอดผ่อน
     - ยอดหนี้รวมตอนกู้ 668750 ลบกับที่ผ่อนไปแล้ว 2229000 เท่ากับเหลือเป็นหนี้อยู่ 445850
     - ถ้าจะรีไฟแนนซ์เพื่อลดค่างวดน้อยลงจะต้องขอสินเชื่อรถที่วงเงินใหม่ที่ 450000 เพื่อให้ครอบคลุมยอดหนี้เดิม
     - รีไฟแนนซ์รถที่ 450000 ดอกเบี้ย5%ต่อปีะ ผ่อนระยะเวลา5ปี ค่างวด10031ต่อเดือน รวมเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยและvat = 601875

จากเหตุการณ์สมมุติ ค่างวดตอนแรก 11145 รีไฟแนนซ์รถใหม่เพื่อให้ค่างวดน้อยลงเป็น 10031 ลดลง 1114 ซึ่งลดน้อยลงประมาณ 1000 ภาระดอกเบี้ยที่ซ้ำซ้อน
1 ดอกเบี้ยสินเชื่อรถในครั้งแรก 125000
2 ดอกเบี้ยหลังจากรีไฟแนนซ์รถ 112500
3 จะเห็นได้ว่าภาระดอกเบี้ยรวมทั้งสองครั้ง 237500 ซึ่งแลกกับการลดค่างวดลดลงเดือนละ 1000

ในบางครั้งคนเราก็เลือกไม่ได้มีเหตุจะต้องนำรถที่ผ่อนอยู่มารีไฟแนนซ์รถด้วยเหตุผลของแต่ละบุคคลคนเช่น
   - ลดค่างวด
   - เพื่อไม่ให้รถโดนยึด จะได้ไม่ต้องติดแบล็คลิสต์
   - เปลี่ยนชื่อเพื่อไปกู้อย่างอื่น
   - ให้เหลือส่วนต่างเงินสดเพื่อนำไปใช้กับธุระจำเป็น