ในการยื่นขอสินเชื่อรถยนต์ครั้งแรกเรียกว่าจัดไฟแนนซ์ เมื่ออนุมัติผ่านแล้วตามวงเงินที่ขอไป ท่านจะได้ภาระเพิ่มในส่วนของดอกเบี้ย บวกกับภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % ที่จะต้องเสียจ่าย
แต่ท่านจัดไฟแนนซ์ผ่านแล้วยังไม่หมดอายุสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ แล้วต้องการนำมาจัดใหม่ในกรณีที่จะเรียกว่า รีไฟแนนซ์รถยนต์
ในการจัดไฟแนนซ์ใหม่(รีไฟแนนซ์)นั้น เมื่อเรื่องอนุมัติผ่านใช่ว่าท่านจะได้เงินแล้วที่ใหม่หรือที่เก่าจะโอนหนี้เข้าที่ใหม่ให้นะครับ ท่านจะต้องการดำเนินการเคลียร์ยอดหนี้ที่ค้างอยู่โดยดำเนินการปิดบัญชีเช่าซื้อรถยนต์เพื่อที่จะได้เล่มทะเบียนรถยนต์ที่อยู่กับที่เก่า เมื่อได้เล่มทะเบียนแล้วจึงนำส่งโอนเข้าที่ใหม่นั้นเอง
สิ่งที่จะเกิดจากการปิดบัญชีเช่าซื้อรถยนต์ที่เก่า
- ส่วนลดเฉพาะดอกเบี้ย 50 % (ภาษีมูลค่าเพิ่มไม่เกี่ยวนะครับ)
- ได้เล่มทะเบียน
สิ่งที่จะเกิดจากการรีไฟแนนซ์ (จัดไฟแนนซ์ใหม่)
- ดำเนินการโอน 2 ต่อ (จากที่เก่า เข้าชื่อผู้เช่าซื้อ จากผู้เช่าซื้อไปยังที่ใหม่)
- ประกันภัยต้องทำแน่ ถ้าไม่ทำประกันภัยก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมที่จะเลี่ยงประกันภัย(โดนกินเปล่า)
- ระยะเวลาในการนับ 1 ใหม่ รันดอกเบี้ยเช่าซื้อใหม่
- เสียภาษีมูลค่าเพิ่มอีกรอบ(7%)
ถ้าท่านดำเนินการผ่อนไหวไปรอด ไม่เหตุจำเป็นจริงๆ แนะนำอย่านำรถยนต์มารีไฟแนนซ์เลย การรีไฟแนนซ์ เท่ากับ เริ่มภาระใหม่ตั้งแต่ต้น และ จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในการทำรีไฟแนนซ์เพิ่มขึ้นด้วย
การรีไฟแนนซ์มีแต่เสีย กับ เสีย หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการทำ แต่ที่สำคัญสถาบันการเงินหรือธนาคารได้รับผลประโยชน์เรื่องดอกเบี้ยแน่นอนที่สุด
